ผู้นำแรงงานหญิงเฮ ! ได้นายกเป็นผู้หญิง หวัง! แก้ไขปัญหาที่รอมานาน

หลังจากพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่  3  กรกฎาคม  2554  จากคะแนนเสียงส่วนมากสนับสนุนอย่างท่วมท้น    ทำให้ในวันนี้นางสาวยิ่งลักษณ์    ชินวัตรได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย   โดยได้นำเสนอนโยบายที่ประชาชนคนรากหญ้าไม่อาจจะปฏิเสธได้นั้นคือ

ค่าจ้าง   300  บาท/วันเท่ากันทั่วประเทศ        ปริญญาตรีได้รับเดือนละ  15,000  บาท        การประกันราคาพืชผลทางการเกษตรหรือแม้แต่การจัดตั้งกองทุนพัฒนาผู้หญิงจังหวัดละ   100  ล้านบาท     ทำให้ปัจจุบันหลายคนจับตาดูการทำงานของรัฐบาลที่มีผู้หญิงเป็นนายกรัฐมนตรี

นางสาวธนพร    วิจันทร์       ประธานกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี     กล่าวว่า    แสดงความยินดีกับนางสาวยิ่งลักษณ์   ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย   และสิ่งแรกที่จะต้องทำต่อไปนี้คือ การแสดงศักยภาพบทบาทผู้หญิงในทำงานให้เป็นที่ยอมรับ  ซึ่งภาพเบื้องหลังของนางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  นั้นหลายคนมองว่าอาศัยบารมีของพี่ชายทำให้ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี   แม้จะไม่ปฏิเสธว่าไม่ใช่ในการพูดออกสื่อต่างๆ  ว่า อดีตนายกทักษิณ ซึ่งเป็นพี่ชายนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือการได้ตำแหน่งนายกหญิง   ฉะนั้นแล้วบทบาทหน้าที่หรือการแสดงศักยภาพให้ทุกคนยอมรับนั้นเป็นสิ่งสำคัญ

ตนในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กรแรงงานที่ทำงานด้านผู้หญิงทุกภาคส่วน  ไม่ว่าจะเป็นแรงงานหญิงในระบบ  นอกระบบ    รัฐวิสาหกิจ   พี่น้องเกษตรพันธสัญญาที่เป็นผู้หญิง  อยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีหญิงได้ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาของผู้หญิง

ประเด็นแรกที่กลุ่มบูรณาการแรงงานสตรีได้เสนอมาหลายยุคหลายสมัย  คือ การจัดตั้งศูนย์เลี้ยงเด็กในเขตอุตสาหกรรม ที่สอดคล้องกับการทำงาน หรือการดำรงชีวิตของคนงาน เนื่องจากปัจจุบันคนงานหลายต่อหลายคนต้องทำงานเป็นกะ  ทำให้ไม่มีโอกาสได้ดูแลลูกทำให้เป็นปัญหาครอบครัวและสังคม

ประเด็นที่สองเรื่องของการรับรองอนุสัญญาระหว่างประเทศ  ( ILO )  ฉบับที่183  ว่าด้วยสิทธิคุ้มครองการเป็นมารดา  และประเด็นที่สามเรื่องสัดส่วนของผู้หญิงในระดับการสินใจเชิงนโยบาย  เช่น  คณะกรรมการไตรภาคีในกระทรวงแรงงาน   คณะกรรมการประกันสังคมที่มีเรื่องของผู้หญิงอยู่หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นการลาคลอด  กองทุนสงเคราะห์บุตรรวมถึงคณะกรรมการส่วนต่างๆได้ให้โอกาสผู้หญิงได้เข้าไปนำเสนอสะท้อนปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไข  เช่นเดียวกับนโยบายพรรคเพื่อไทยที่จะมีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาผู้หญิงจังหวัดละ  100  บาท ก็ต้องให้มีแต่งตั้งคณะกรรมการโดยให้ผู้หญิงในพื้นที่  หลากหลายอาชีพเข้ามามีบทบาทและร่วมกันทำงานโดยใช้เงินกองทุนช่วยแก้ไขปัญหา และพัฒนาศักยภาพของผู้หญิงในแต่ละจังหวัดอย่างจริงจังต่อไป  ก็ขอฝากประเด็นปัญหาของผู้หญิงที่ได้กล่าวมานี้กับนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยด้วย   ให้นำกลับไปคิดและเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้าไปมีบทบาททางสังคมมากขึ้น

//////////////////////////////