นักศึกษามาแลกเปลี่ยนดูงานที่สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วย

วันที่ 21 สิงหาคม 2554 ที่สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานแห่งประเทศไทย จ.นนทบุรี คุณสมบุญ สีคำดอกแค และสมาชิกได้ต้อนรับคณะนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จำนวน 25 คน ที่มาศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากสมาชิกผู้ป่วยอันเนื่องจากการทำงานจำนวน 25 คน รวม 30 คน 

นักศึกษาแต่ละคนต่างสนใจในสาเหตุอาการความเจ็บป่วยของคนงานที่เกิดจากการทำงาน ซึ่งไม่มีวันที่จะรักษาให้หายขาดได้ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับปอดเช่นซิริโครซิส บิสซิโนซิส หรือโรคอันเกิดจากการยกของหนักเช่น กระดูกทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกเสื่อม หรืออาการจากประสบอุบัติเหตุในงานจนต้องเจ็บป่วยพิการ ซึ่งหลายๆโรคต้องอาศัยการเข้าไปรับบริการกับคลินิกโรคจากการทำงาน และรับวินิจฉัยจากแพทย์อาชีวเวชศาสตร์หรือแพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยโรคและรักษาพยาบาลอย่างถูกต้อง

นอกจากนี้นักศึกษายังได้เรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมาการต่อสู้อันยาวนานถึง 15 ปี ของกลุ่มคนป่วยจากการปั่นฝ้ายในโรงงานทอผ้า ที่ต้องรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องสิทธิความเป็นธรรมจากนายจ้าง และภาครัฐจนเกิดสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยฯขึ้นมาในปี พ.ศ.2536

หลังจากที่นักศึกษาได้เรียนรู้จากการบอกเล่า ของคุณสมบุญสีคำดอกแค และการสัมภาษณ์สมาชิกผู้ป่วยแต่ละคนถึงอาการเจ็บป่วย  เช่นจากคนงานเย็บผ้าส่งนอกต้องฟ้องกองทุน เพื่อขยายสิทธิ ในการรักษาพยาบาล วันที่ 24 สิงหาคม 2554 จะตัดสินพิพากษาที่ศาลนนทบุรี คนงานโกดังสินค้าชื่อดังต้องยกของลากของหนักวันละเป็นร้อยๆ ชิ้นจนกระดูกสันหลักอักเสบ  คนงานทอผ้าใยสังเคราะห์หกล้มสะดุดพื้น กองทุนปฏิเสธ คนงานทำงานเครื่องปั้นดินเผาเป็นโรคปอดอักเสบ ซิริโคซิสจากการทำงาน และคนงานทำงานในโรงงานประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นกระดูกทับเส้นประสาท แต่กับได้รับการดูแลจากนายจ้างอย่างดี ซึ่งมองว่าถ้านายจ้างมีคุณธรรมลูกจ้างก็จะได้รับการดูแลรักษาตัวอย่างดีด้วย  และชีวิตของอดีตคนงานทอผ้าป่วยเป็นโรคบิสซิโนซิสจากการทำงานต้องสู้คดีถึง 15 ปี และประสบการณ์อันเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจที่ต้องเผชิญต่อโรคร้ายอันติดตัวไปตลอดชีวิต และการไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกปฏิเสธความรับผิดชอบจากนายจ้างหรือภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

ทำให้นักศึกษากลุ่มนี้รู้สึกว่าตนจะต้องบอกเล่าประสบการณ์นี้ต่อให้เพื่อนคนอื่นๆได้ฟัง และจดจำเป็นอุทาหรณ์ในการทำงานและการที่จะเป็นหัวหน้างานที่ดีต่อไปในอนาคต  ยังคงมีคนงานอีกมากมายที่ต้องเสี่ยงจะเจ็บป่วยจากการทำงาน หากวันนี้เรายังไม่ป้องกันด้วยการใส่ใจต่อสุขภาพของคนงานเป็นสำคัญ และยังให้คนงานต้องทำงานหนักด้วยความรีบเร่งเพียงเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดด้วยค่าแรงราคาถูกสุดๆจนคนงานต้องพยายามทำในการพูดคุยครั้งนี้จึงคิดว่า รัฐบาลใหม่ให้นโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาทนั้นต้องปฏิบัติจริงให้ได้                                                                                                   สภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยฯ รายงาน