คาด 3 ปี กระทบแน่แรงงานอุตสาหกรรม-เกษตร

20160726_100800

อธิบดีกรมจัดหางาน เผยภายใน 3-4 ปี อุตสาหกรรม-เกษตรถดถอย ปัญหาแรงงานสูงอายุ การลงทุนย้ายฐาน -นำเทคโนโลยีมาแทนหลังไทยแลนด์ 4.0 แต่แนวโน้มภาคบริการเพิ่ม เตรียมส่งเสริม

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2559 หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์รายงานว่า นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้เปิดเผยเรื่อง การจ้างงานภาคการเกษตร อุตสาหกรรม ภายใน 3-4 ปี ข้างหน้าจะลดลง แต่ภาคบริการจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เพราะภาคอุตสาหกรรมมีแรงงานผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นจึงมีการถดถอย ประกอบกับมีปัญหาจากการลงทุน สภาวะเศรษฐกิจ การย้ายฐานการผลิต และมีการนำเทคโนโลยีมาทดแทนมากขึ้น ฉะนั้นตั้งแต่ปี 2560 กรมการจัดหางานจะมุ่งเน้นการพัฒนาแรงงานภาคบริการให้มากขึ้น และต้องพัฒนาธุรกิจใหม่ให้มีคุณภาพ ซึ่งจุดแข็งของประเทศไทย คือ การพัฒนาแรงงานเพื่อส่งออกพ่อครัวแม่ครัวไทย ที่ต้องยกระดับคนกลุ่มนี้อย่างเร่งด่วน โดยควรนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนา สร้างมูลค่าสินค้าการเกษตรให้มากขึ้น และต้องรีบเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส จากการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย โดยพัฒนาให้สามารถทำงานต่อได้ ขณะเดียวกันต้องวางแผนเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งระบบ ตั้งแต่ก่อนเกิดจนเข้าสู่วัยแรงงานให้เป็นไป ในทิศทางเดียวกัน ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยมีการปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีเข้ามา ควรบริหารจัดการให้มีความเชื่อมโยงเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อรูปแบบการทำงานเปลี่ยน เนื่องจากอนาคตไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นไทยแลนด์ 4.0 ได้ทั้งหมด เพราะความเป็นจริงต้องมีตั้งแต่ 1.0 ถึง 4.0 ฉะนั้นจะทิ้งใครไว้ข้างหวังไม่ได้ ควรสร้างทุกคนให้มีสมรรถภาพตามประสิทธิภาพของแต่ละคนด้วย

นายอารักษ์ ยังกล่าวถึงการดำเนินงานของกรมการจัดหางานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ว่า ได้ให้บริการจัดหางาน ภายในประเทศซึ่งมีผู้เข้ามาสมัครงาน ทั้งทางสำนักงานจัดหางานและผ่านแอพ พลิเคชั่นโมบายรวม 1.54 แสนคน มีผู้ได้รับการบรรจุงาน 75,053 คน ขณะที่เมื่อมีการจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุทุกจังหวัดตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีผู้สูงอายุเข้าขอ รับการใช้บริการแล้ว 774 คน ได้รับการ บรรจุงาน 413 คน ส่วนการจัดหางานไปต่างประเทศ มีการส่งแรงงานไทยไปทำงานแล้ว 62,387 คน สร้างรายได้ส่งกลับเข้าประเทศประมาณ 8.7 หมื่นล้านบาท

ด้านการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวและสถานประกอบการตามคำสั่ง คสช.มีการตรวจสถานประกอบการไปแล้ว 5,626 แห่ง และตรวจสอบแรงงานต่างด้าว 9.8 หมื่นคน ภาพรวมมีการดำเนินคดีกับนายจ้าง สถานประกอบการไปแล้ว 481 ราย แรงงานต่างด้าว 2,944 คน ขณะที่การเปิดจดทะเบียนแรงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ประกอบด้วย เมียนมา ลาว กัมพูชา ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2559 ได้มีการจดทะเบียนแรงงานไปแล้ว 1.2 ล้านคน แบ่งเป็นแรงงาน 1.17 ล้านคน ผู้ติดตาม 2.4 หมื่นคน ส่วนการแก้ปัญหาทำประมงผิด กฎหมาย หรือไอยูยู ได้เปิดให้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ทั้งในกิจการประมงทะเล และแปรรูปสัตว์น้ำ รวม 1.9 แสนคน